การดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกวิธีเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นรับหน้าที่นี้ เพราะการปฏิบัติอย่างถูกต้องไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนอย่างแผลกดทับที่เกิดขึ้นได้บ่อย แต่ยังช่วยลดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่อาจตามมาได้ การเข้าใจและใช้ วิธีดูแลผู้ป่วย อย่างถูกวิธีจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและความสบายให้กับผู้ป่วยติดเตียง
บทความนี้จะช่วยแนะแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม เพื่อให้มือใหม่สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ
วิธีการดูแลผู้ป่วยติดเตียงเบื้องต้น ป้องกันแผลกดทับ
แผลกดทับ (Pressure Injury) คือการที่ผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังถูกทำลายจากการถูกกดทับเป็นเวลานาน โดยเฉพาะบริเวณปุ่มกระดูก ทำให้เลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอจนเนื้อเยื่อตาย การป้องกันจึงเป็นหัวใจสำคัญที่สุดในการดูแลผู้ป่วยติดเตียง เพื่อลดความเจ็บปวดและป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรง การดูแลอย่างถูกวิธีต้องอาศัยความเข้าใจในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการดูแลผิวหนัง การจัดท่าทาง โภชนาการ และการใช้อุปกรณ์เสริม
1. การดูแลผิวหนัง
ผิวหนังที่สุขภาพดีคือช่วยป้องกันการเกิดแผลกดทับได้ ผู้ดูแลจึงต้องใส่ใจประเมินและดูแลผิวหนังของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจเช็คผิวหนังบริเวณปุ่มกระดูกและจุดเสี่ยงต่างๆ (เช่น ก้นกบ, ส้นเท้า, สะโพก, ข้อศอก, ท้ายทอย) ทุกครั้งที่เปลี่ยนท่าผู้ป่วย หากพบรอยแดง ช้ำ บวม หรือสีผิวเปลี่ยนไป ต้องรีบเปลี่ยนท่าให้บ่อยขึ้นกว่าเดิม
- ทำความสะอาดผิวหนังด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์อ่อนโยน โดยเฉพาะหลังการขับถ่าย ต้องทำความสะอาดทันทีแล้วซับเบา ๆ ให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันความอับชื้นที่เป็นสาเหตุให้ผิวหนังเปื่อยยุ่ย
- ทาผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้น (Moisturizer) หรือครีมเคลือบผิวเพื่อการปกป้อง (Skin Barrier Cream) เพื่อป้องกันผิวแห้งแตกและลดการเสียดสี
- ห้ามนวดบริเวณปุ่มกระดูก เพราะจะยิ่งเพิ่มแรงกดและแรงเสียดทาน ทำให้เนื้อเยื่อบอบช้ำมากขึ้น
- ห้ามใช้ห่วงยางหรือถุงมือใส่น้ำมารองก้นหรือส้นเท้า เพราะจะยิ่งเพิ่มแรงกดเฉพาะจุดและทำให้เกิดความอับชื้น เสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับสูง
2. การจัดท่าและการเคลื่อนไหว
การลดแรงกดทับโดยตรงคือวิธีป้องกันแผลกดทับที่ดีที่สุด ซึ่งทำได้โดยการเปลี่ยนท่าทางของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งการนั่งและนอน
- พลิกตะแคงตัวทุก 2 ชั่วโมง เพื่อเปลี่ยนจุดที่รับน้ำหนัก ไม่ให้ถูกกดทับนานเกินไป
- ควรใช้ผ้าช่วยยกตัว (Lifting Sheet) แทนการลากหรือดึงตัวผู้ป่วย เพื่อลดแรงเสียดสีและแรงไถลที่ทำลายผิวหนัง หรือเลือกใช้รถเข็นเคลื่อนย้ายที่มีฟังก์ชั่นการปรับระดับรับผู้ป่วยจากเตียงได้เมื่อต้องการเคลื่อนย้าย
- ท่านอนตะแคงกึ่งหงาย 30 องศา เป็นท่าที่ดีที่สุดในการลดแรงกดทับโดยตรงที่ปุ่มกระดูกสะโพก โดยใช้หมอนหนุนหลังและสอดคั่นระหว่างเข่า
- ท่านอนหงายศีรษะสูง หากจำเป็นต้องปรับหัวเตียงสูง ควรยกเข่าขึ้นเล็กน้อยเพื่อป้องกันการเลื่อนไถล และปรับเตียงกลับลงมาภายใน 1 ชั่วโมง
- ท่าส้นเท้าลอย (Heel Float) ใช้หมอนรองใต้ขาน่องเพื่อยกส้นเท้าให้ลอยพ้นจากพื้นเตียงเสมอ เป็นการป้องกันแผลกดทับที่ส้นเท้าได้อย่างสมบูรณ์
3. การดูแลด้านโภชนาการ
อาหารและสารอาหารที่ครบถ้วนมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างความแข็งแรงของผิวหนังและช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เน้นอาหารที่มีโปรตีน เช่น เนื้อปลา ไข่ นม ถั่ว เพื่อใช้ในการสร้างเนื้อเยื่อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
- วิตามินซีและสังกะสีมีความสำคัญต่อการสร้างคอลลาเจนและสมานแผล
- ผู้ป่วยต้องได้รับพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตและไขมันอย่างเพียงพอ รวมถึงดื่มน้ำให้ครบถ้วนเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว
4. การใช้อุปกรณ์เสริมและดูแลอุปกรณ์ทางการแพทย์
เลือกใช้ที่นอนลดแรงกด ที่นอนลมหรือที่นอนโฟมชนิดพิเศษ จะช่วยกระจายน้ำหนักได้ดีกว่าที่นอนทั่วไป ควรดูแลผ้าปูที่นอนให้สะอาด แห้ง และเรียบตึงอยู่เสมอ
หมั่นตรวจดูผิวหนังบริเวณที่สัมผัสกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น สายให้อาหารทางจมูก สายสวนปัสสาวะ หรือท่อช่วยหายใจ ใช้แผ่นโฟมหรือก๊อซรองเพื่อลดการกดทับ และเปลี่ยนตำแหน่งพลาสเตอร์ที่ยึดสายต่าง ๆ เป็นประจำ รวมถึงดูแลรถเข็นเคลื่อนย้าย ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
รถเข็นเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง ช่วยป้องกันแผลกดทับได้อย่างไร
การใช้รถเข็นเคลื่อนย้ายถือเป็นตัวช่วยที่สำคัญ ไม่เพียงแค่เพิ่มความสะดวกในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงของการเกิดแผลกดทับที่ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม
การเลือกใช้และดูแลรถเข็นอย่างเหมาะสมจึงเป็นส่วนหนึ่งของการ ดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกวิธี ที่ไม่ควรมองข้าม
ประโยชน์ของรถเข็นเคลื่อนย้าย
รถเข็นเข็นเคลื่อนย้ายช่วยลดภาระการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ทำให้การดูแลเป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญใน วิธีดูแลผู้ป่วยที่ถูกต้อง อีกทั้งการเปลี่ยนท่าทางผู้ป่วยด้วยรถเข็นยังช่วยลดแรงกดทับบริเวณจุดเสี่ยง ส่งผลให้โอกาสเกิดแผลกดทับลดลง
คุณสมบัติของรถเข็นเคลื่อนย้ายที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยติดเตียง
ในการ ดูแลผู้ป่วยติดเตียงที่บ้าน รถเข็นควรมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน เช่น สามารถรับผู้ป่วยจากเตียง ย้ายผู้ป่วยขึ้นรถยนต์ หรือใช้เป็นรถเข็นอาบน้ำได้อย่างสะดวก สามารถปรับระดับความสูงเพื่อให้เทียบกับเตียง เบาะรถยนต์ได้ เพื่อลดการยก
และควรผลิตจากสแตนเลส 304 ทำความสะอาดง่าย และไม่เกิดสนิม เพื่อรองรับการใช้งานอย่างยาวนานและถูกสุขอนามัย
เทคนิคการย้ายจากเตียงเพื่อป้องกันแผลกดทับด้วยรถเข็นเคลื่อนย้าย
การใช้รถเข็นเคลื่อนย้ายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดแผลกดทับได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสำหรับผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้ที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว การย้ายผู้ป่วยอย่างถูกวิธีไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันการเกิดแผล แต่ยังช่วยลดภาระและป้องกันการบาดเจ็บของผู้ดูแลอีกด้วย
เทคนิคเสริมสำหรับผู้ดูแลมือใหม่ เพื่อป้องกันแผลกดทับด้วยการใช้รถเข็นเคลื่อนย้าย
การยกหรือเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโดยตรงอาจเพิ่มโอกาสเกิดแรงเสียดสีและแรงกดทับบนผิวหนัง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดแผลกดทับ การใช้รถเข็นที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสมจะช่วยกระจายแรงกดได้ดีกว่าการนั่งบนเตียงนานๆ การปฏิบัติตามเทคนิคและข้อควรระวังในการใช้รถเข็นจึงเป็นส่วนสำคัญของการดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกวิธี เพื่อรักษาคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของผู้ป่วย
ขั้นตอนการย้ายผู้ป่วยจากเตียงไปยังรถเข็นด้วย Easy Move 2
การดูแลผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่ต้องการความช่วยเหลือในการเคลื่อนย้าย เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการอำนวยความสะดวกและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากเตียง ต้องทำอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ Easy Move 2 จึงได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณสามารถดูแลผู้ป่วยได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากเตียงไปยังรถเข็นให้ปลอดภัย
เริ่มต้นด้วยการ หมุนเตียงผู้ป่วยขึ้น และจัดให้ผู้ป่วยอยู่ใน ท่านั่งกึ่งตะแคง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเคลื่อนย้าย
หมุนปรับระดับรถเข็น Easy Move 2 ให้สูงกว่าเตียงเล็กน้อย เพื่อสอดรถเข็นขึ้นไปบนเตียง ลดแรงที่ผู้ดูแลต้องใช้ และเพิ่มความสบายให้กับผู้ป่วย.
เข็นรถเข็นสอดเข้าไปรับผู้ป่วยจากด้านข้าง ล็อกล้อทั้ง 2 ด้านของรถเข็น เพื่อป้องกันไม่ให้รถเข็นเลื่อนระหว่างการเคลื่อนย้าย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความปลอดภัยของผู้ป่วย
ถอดที่พักแขนด้านข้างออก เคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากเตียงขึ้นมาบนรถเข็น
เมื่อผู้ป่วยนั่งบนรถเข็นอย่างมั่นคงแล้ว เข็นรถเข็นออกมาเล็กน้อยเพื่อใส่ที่พักแขนกลับเข้าไป
ที่พักแขนของ Easy Move 2 มี จุดยึดน็อต 2 จุด ซึ่งออกแบบมาเพื่อ เพิ่มความแข็งแรงและความมั่นคง ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกปลอดภัย
ข้อควรจำเพื่อป้องกันแผลกดทับ
- พลิกตัวสม่ำเสมอ: หากผู้ป่วยต้องอยู่บนเตียงเป็นเวลานาน ควรพลิกตัวอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง
- ดูแลผิวหนัง: รักษาความสะอาดและดูแลผิวหนังให้แห้งอยู่เสมอ ไม่ให้เปียกชื้นหรือแห้งจนเกินไป
- โภชนาการที่เหมาะสม: ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารครบถ้วน โดยเฉพาะโปรตีนและวิตามิน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของผิวหนัง
การดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกวิธีไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันแผลกดทับและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ แต่ยังเพิ่มคุณภาพชีวิตและความสบายให้ผู้ป่วยได้อย่างชัดเจน การใช้รถเข็นเคลื่อนย้ายจึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญและช่วยลดภาระของผู้ดูแลได้อย่างมาก สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถเข็นที่ครบฟังก์ชันและปลอดภัย
ขอแนะนำ Easy Move2 จาก Standwalk ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การดูแลผู้ป่วยติดเตียงโดยเฉพาะ ทั้งเรื่องความทนทาน ความสะดวกสบาย และมาตรฐานความปลอดภัย
ลองใช้รถเข็นรุ่นนี้ดู แล้วคุณจะพบว่า การดูแลผู้ป่วยไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด